จุดเริ่มต้นของ AIU

สถาบันพัฒนาชีวิตสู่ตวามยั่งยืน AIU ก่อตั้งขึ้นโดย คุณจงสวัสดิ์ เลิศธนสาร ผู้มีประสบการณ์ในการส่งเสริมนักศึกษาไทยให้ไปฝึกงานด้านเทคนิคในประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี เริ่มดำเนินการเรียนการสอนที่อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยจำนวนนักศึกษาเริ่มต้นเพียง 7 คน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561โดยมุ่งเน้นการสอนภาษาญี่ปุ่นที่เข้าใจง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาใช้ชีวิตและทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่น

ระบบกองทุนเพื่อโอกาส
ในขณะเดียวกัน ได้มีการจัดตั้ง กองทุน AIU เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สามารถเข้าเรียนได้ด้วยค่าใช้จ่ายแรกเข้าเพียง 5,000 บาท และขอรับทุนในส่วนที่เหลือ โดยทยอยชำระคืนเมื่อมีรายได้จากการฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น ระบบกองทุนนี้จึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้โอกาสนักศึกษาเข้ามาเรียน และหมุนเวียนไปถึงนักศึกษารุ่นต่อไปได้อย่างยั่งยืน

การพัฒนาหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ
ภายหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นเปิดให้ประเทศไทยสามารถส่งผู้ฝึกงานในสาขาการดูแลผู้สูงอายุได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 สถาบัน AIU จึงได้เริ่มพัฒนาหลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคลากรในสายงานบริบาล โดยร่วมมือกับผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณสมศักดิ์ ตรีสุขเกษม นพ. สิน ลิ่วศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลริม ลิฟวิ่ง จ.นครราชสีมา ผศ. สุปรียา บุญยเกตุ อดีตอาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อาจารย์อรพรรณ พงษ์ภักดี อาจารย์พยาบาลวิชาชีพ ใช้ระยะเวลาพัฒนาหลักสูตรและเตรียมความพร้อมนานกว่า 1 ปี ในที่สุดก็สามารถรับนักศึกษารุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ. 2562 โดยจัดให้มีการเรียนการสอนในโรงพยาบาลริม ลิฟวิ่ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีผู้สูงอายุมาใช้บริการ เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติงานบริบาลจากสถานการณ์จริง โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ของทางโรงพยาบาลควบคุมดูแล ให้มีประสบการณ์ก่อนเดินทางไปฝึกงานดูแลผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่น

ผลสัมฤทธิ์
ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2561–ปัจจุบัน) สถาบัน AIU มีนักศึกษากว่า 1,500 คน ที่สำเร็จหลักสูตรและเดินทางไปฝึกงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น ทั้งในสาขางานอุตสาหกรรมและสาขาการดูแลผู้สูงอายุ ได้รับคำชมจากสถานประกอบการหลายแห่ง โดยเฉพาะนักศึกษาสาขาการดูแลผู้สูงอายุ ที่สามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งยังมีความรู้ ความเข้าใจในระบบการทำงานของประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างดี สามารถเรียนรู้งานได้ไว
ในด้านการศึกษาต่อเนื่อง นักศึกษา AIU สามารถพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นจนถึงระดับ N2–N1 และมีโอกาสทำงานในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง บางส่วนกลับมาประกอบอาชีพในประเทศไทยหรือเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง โดยใช้ทุนที่เก็บสะสมจากประสบการณ์ฝึกงาน

หลักสูตรที่เปิดสอนในปัจจุบัน
ปัจจุบัน สถาบัน AIU เปิดสอนหลักสูตรพัฒนาพื้นฐานวิชาชีพและทักษะชีวิต โดยมี 3 สาขารองรับเป้าหมายและความถนัดที่หลากหลายของผู้เรียน ดังนี้
- สาขางานอุตสาหกรรมในระบบญี่ปุ่น
- สาขาการจัดการสุขภาพผู้สูงอายุในระบบญี่ปุ่น
- สาขาธุรกิจการบริการในระบบญี่ปุ่น
ทุกสาขาเน้นการเตรียมความพร้อมด้านภาษา วัฒนธรรม และทักษะที่จำเป็นสำหรับการฝึกงานและการทำงานในประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามระบบกฎหมายแรงงาน นอกจากนี้ ยังสอนทักษะการใช้ชีวิต ทั้งในเรื่องการเงิน การวางแผนต่อยอดเส้นทางอาชีพ โดยครูของสถาบัน AIU จะทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษา ในการใช้ชีวิตสำหรับนักศึกษา ทั้งศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า ซึ่งเป็นพันธกิจของสถาบัน AIU นั่นคือ
- ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะวิชาชีพให้กับเยาวชนไทย
- พัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศญี่ปุ่น
- สร้างระบบการสนับสนุนทางการเงินที่เข้าถึงได้ ผ่านระบบกองทุนเพื่อการเรียนรู้
- ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพกับองค์กรในประเทศและต่างประเทศ
- ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ มีวินัย และสามารถปรับตัวในสภาพแวดล้อมทุกรูปแบบได้

ความร่วมมือด้านการศึกษาระดับปริญญาตรี
สถาบัน AIU ได้ร่วมมือกับสถานศึกษาในระบบ อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม และสถานศึกษาอีกหลายแห่ง เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับ ม.6, ปวช. หรือ ปวส. ได้เรียนต่อระดับปริญญาตรีควบคู่กับการฝึกงานในญี่ปุ่น โดยสามารถสำเร็จการศึกษาได้ภายใน 3 ปี ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนมีทั้งคุณวุฒิและประสบการณ์จริงที่สามารถนำไปใช้ในสายอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางการดำเนินงาน
สถาบันพัฒนาชีวิตสู่ความยั่งยืน AIU ดำเนินงานภายใต้หลักการ “โอกาส ความรู้ และความยั่งยืน” โดยเชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาตนเองได้ หากได้รับการส่งเสริมที่เหมาะสม ทั้งในด้านวิชาการ วิชาชีพ และทักษะชีวิต เพื่อเติบโตเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว ชุมชน และสังคม